วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2559

lnterrogation2

https://docs.google.com/forms/d/1qaCpy9Jwq6Rl7APTRbO8koMskeSstWZ1W4wk3zAHmmo/edit

Detailfinal2

แบบสำรวจความพึงพอใจในการใช้คอมพิวเตอร์ในมรภ.ร้อยเอ็ด
อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วมุมโลกแต่ละเครือข่ายบรรจุแฟ้มข้อ มูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาข้อมูลทางธุรกิจการค้า ข่าวสาร และการบันเทิงซึ่งเป็นข้อมูลทั้งในอดีตและปัจจุบันข้อมูลต่างๆเหล่านี้ได้ถูกเก็บเป็นแฟ้มข้อมูลไวในรูปของฐานข่าวสารจากเครือข่ายย่อยต่างๆ ของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งมีความสะดวกและรวดเร็วนอกจากนั้นผู้ใช้ยังสามารถติดต่อข่าวสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสามารถบังคับผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย โดยกระจายข่าวสาร หรือการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งสามารถทา ได้อย่างรวดเร็วรวดเร็ว ระบบอินเทอร์เน็ตได้แพร่หลายในหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบอินเทอร์เน็ตของหน่วยงานการศึกษาในมหาวิทยาลัยที่มีอัตราการเจริญเติบโตของผู้ใช้งานในระบบอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็วซึ่งในปัจจุบันการศึกษาของประเทศไทยพบว่าสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยได้อินเทอร์เน็ตเข้ามาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการศึกษาอย่างกว้างขวางโดยมีวัตถุประสงค์ที่สอดคล้องกันคือต้องการเตรียมความพร้อมให้การศึกษาในการเข้าสู่สังคมสารสนเทศซึ่งเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้และเข้าใจระบบเครือข่ายและสามารถศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากแหล่งต่างๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศได้
 ประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุดของอินเตอร์เน็ตต่อการศึกษาคือการเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การค้าหาข่าวสารข้อมูลต่างๆ เป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมี web site ต่างๆเกิดขึ้นมากมายและแต่ละ web site ก็ให้ข้อมูลข่าวสารในเรื่องต่างๆ และสามารถค้นหาหนังสือในเรื่องต่างๆเก็บใช้ในคอมพิวเตอร์ให้อ่านและค้นคว้นได้ตามต้องการจากห้องสมุดonline การใช้email ช่วยให้การติดต่อข่าวสารระหว่างกันเป็นไปได้อย่างรวดเร็วไม่ล่าช้าเหมือนแต่ก่อนช่วยให้การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างวิชาการในสาขาเดียวทั่งโลกเป็นไปได้การเรียนแบบ online ยังช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนได้ตามขีดความสามารถของตนเองใครมีความสามารถมากก็เรียนไดเร็วกว่านักเรียนที่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นในห้องก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้มากขั้นผ่านการใช้email หรือ discussion group และจากกรณีศึกษาการใช้อินเทอร์เน็ตที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอินเทอร์เน็ตนั้นมีประโยชน์ทั้งทางด้านการสื่อสารและด้านการศึกษา เช่น อำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารระหว่างอาจารย์และนกศึกษาในด้านการเรียนการสอนการตรวจดูผลการศึกษาการประเมินอาจารย์ผู้สอนการลงทะเบียนและการศึกษาคว้าหาข้อมูลทางด้านการศึกษา
              
เนื่องจากในประเทศไทยต่างมีการแข่งขันกันให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแต่ยังเป็นปัญหามากมายเช่น การส่งไฟล์ นาดใหญ่ผ่านอีเมลยังเป็นปัญหา ปัญหาความเร็วไม่เป็นไปตามแพ็คเกจที่ไดโฆษณาความไม่เสถียรของเครือข่ายทางให้มีปัญหาในการการใช้งานโดยเฉพาะท างธุรกรรมการเงินการใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของลูกค้าเมื่อมีปัญหาก็ได้รับบริการแก้ไขซ่อมแซมช้าทา ให้ลูกค้าเดือดร้อนเนื่องจากไม่สามารถใช้งานได้ผู้ให้บริการไม่ค่อยปฏิบัติตามกฎหมายที่ตั้งไว้เป็นต้น คุณภาพของความเร็วอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยยังไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจนักความเร็วเฉลี่ยของของอินเทอร์เน็ตมีความเร็วในการดาวน์โหลดเฉลี่ยในไทยมีค่า ร้อยละ70.8ความเร็วอัพโหลดมีค่าร้อยละ 14.6 เทียบกับค่าเฉลี่ยระดับโลก ปัญหาหลักที่พบคือ ขาดความเสถียรในการใช้อินเทอร์เน็ตระหว่างพื้นที่ทา ให้มีปัญหาในการใช้งานในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญๆ ของกรุงเทพมหานคร สัญญาณอินเทอร์เน็ตมีความเร็วมากตรงกันข้ามกับต่างจังหวัดแพร่กระจายสัญญาณเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไม่ทั่วถึงซึ่งส่วนใหญ่กลับไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต แม้จะเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยี3Gแล้ว แต่ดูเหมือนแก้ปัญหาไม่ดีเท่าที่ควร ระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในประเทศไทยหลายๆ แห่งยังล่าช้าอยู่มาก ปัญหาอินเตอร์เน็ตล่าช้านั้น ไม่ไดเกิดจากเทคโนโลยีหรือผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตเพียงอย่างเดียวผู้บริโภคหรือผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตก็มีส่วนด้วยเช่นกนเนื่องจากเรามีคนใช้อินเตอร์เน็ตนับเป็นจำนวนมากแต่ผู้ใช้งานส่วนมากไม่รู้วิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างถูกต้องทางให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น นอกจากนั้นอุปกรณ์ที่ใช้เล่นอินเทอร์เน็ตยังอยู่ในปัจจุบันอาจมีมาตรฐานที่ไม่ดีพอคอมพิวเตอร์บางเครื่องอาจมีความช้าเกินในการเข้าหน้าเว็บไซต์

     

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559

ความประทับใจในมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ้ด

http://qa.reru.ac.th/images/





1.อาจารย์ผู้สอนทุกท่านน่ารักสนใจในการสอนนักเรียนนักศึกษา
เช่น อาจารย์มีความเป็นกันเองและให้นักศึกษาเข้าพบในเวลาที่นักศึกษาไม่เข้าใจในการเรียน

2.มหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ดมีความร่มเย็นน่าอยู่
เช่น มีต้นไม้เยอะ อนุรักษ์ธรรมชาติ

3.มหาลัยราชภัฎร้อยเอ็ดมีความทันสมัยขึ้น
เช่น มีความทันในเรื่องของตึก และเน็ต

4.มหาลัยราชภัฎร้อยเอ็ดอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
เช่น การแต่งกาย ขนบธรรมเนียมประเพณี

5มหาลัยราชภัฎร้อยเอ็ดมีห้องสมุดที่มีหนังสือเยอะเเละหาง่าย
เช่น การหาหนังสืออ่านหรือทำงานก็มีคอมพิวเตอร์ค้นหาตำแหน่งของหนังสื่อที่เราต้องการหา

6.มหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ดมีกิจกรรมที่น่าสนใจทำตลอด
เช่น กิจกรรมจิตอาสาพัฒนามหาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด กิจกรรมการแข่งขันกีฬา  กิจกรรมประเพณีลอยกระทง ฯลฯ

วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2559

รูปผลไม้เพื่อสุขภาพ

1.เชอร์รี่


2.กีวี

 

3.แอปเปิ้ล

4.ราสเบอรรี่

5.สตอเบอรี่

6.แตงโม


7.ทับทิม

8.ฝรั่ง



9.มะละกอ




10.มะเฟื่อง

11.กล้วย

12.แก้วมังกร

13.ส้ม


14.องุ่น

15.มังคุด


วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2559

ประโยชน์ของผลไม้เพื่อสุขภาพ

      



          1.ผลไม้ช่วย ชะลอความแก่ เสริมความงาม คนเราจะแก่เร็วหรือช้าขึ้นกับสภาพการทำงานของระบบการสร้างเซลล์ และระบบภูติต้านทาน (immune system) สองระบบนี้ช่วยกันทำงาน ต่อสูความเจ็บป่วย โรมรันกับสารพิษและเชื้อโรคแปลกปลอมที่เข้าสู่ในร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอหรือถูกทำลาย อีกทั้งสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อใหม่เมื่อระบบเซลล์และระบบภูมิต้านทานทำงานได้ดี การแก่ตัวจะเกิดขึ้นน้อยมาก แต่โดยทั่วไป ความแปรปรวนของชีวเคมีในร่างกายอันเนื่องจากความเครียด สารพิษจากสิ่งแวดล้อมการใช้แรงกายที่หนักหักโหมเกินกำลัง รวมทั้งอาหารที่กิน มีส่วนสำคัญมากที่ทำให้ระบบทั้งสองเสื่อมโทรมลง ส่งผลให้แก่เร็วขึ้น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์โภชนาการพบว่า เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี และซีลีเนียม สามารถต้านความชราภาพได้ด้วย แอนติออกซิแดนท์เหล่านี้ช่วยป้องกันและลดความเสื่อมของเซลล์อันเนื่องมาจากปฏิกิริยาลูกโซ่ของอนุมูลอิสระ (free radicals) ธำรงความแข็งแรงของระบบเซลล์ไว้ได้นาน ดังนี้ ผลไม้ที่สารต้านอนุมุลอิสราจึงช่วยชะลอความแก่ ผลไม้ยังช่วยให้ระบบภูมิต้านทานแข็งแรง ก็เท่ากับรักษาระบบภูมิต้านทานให้ไม่ต้องถูกใช้งานหนัก ก็เท่ากับช่วยชะลอความแก่ไปโดยปริยาย คนกินผลไม้มาก ๆจะเห็นผลทันตา ผิวหนังจะเต่งตึงความเหี่ยวย่นจะปลาสนาการไป รูปหน้าที่สวยจริงก็จะปรากฎไม่ถูกบดบังทำอัปลักษณ์ใบหน้ากางด้วยน้ำและไขมัน รอยย่นจะบางเบา นัยน์ตาจะใสและแจ่มจรัส ผลไม้มิได้ชะลอความแก่แต่ระดับผิว (เผิน) เท่านั้น เพราะผิวเป็นเพียงตัวบ่งบอกสุขภาพคนกินผลไม้มากจะมีโคเลสเตอรอลพอเหมาะ ความดันโลหิตพอดี ตับไตแข็งแรง ทั้งหมดนี้ส่งผลบวกโดยตรงต่อผิวพรรณ

        2.ผลไม้ คลายอารมณ์ กินผลไม้มาก ๆ ช่วยทำให้สุขภาพจิตดี เพราะเมื่อไม่เบียดเบียนชีวิต จิตใจย่อมเกิดศานติสุข นอกจากนั้นในผลไม้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุหลายอย่างที่นักวิชาการได้พบว่า ส่งผลให้นักนิยมผลไม้เป็นคนอารมณ์ดีกว่าผู้อื่น ความรู้สึกซึมเซา ไม่กระปรี้กระเปร่า และอารมณ์เสียซึ่งหลาย ๆ คนเป็นกัน อาจเกิดมาจากน้ำตาลในเลือดมีระดับต่ำ (hypoglycemia) ผลไม้ โดยเฉพาะน้ำผลไม้คั้นสักแก้ว จักช่วยให้กลับตื่นตัวและเบิกบานได้ โดยไม่ต้องอาศัยกาแฟหรือชาเป็นตัวกระตุ้นอย่างที่เคยชิน กล่าวกันว่าร้อยละ 80 คนที่มีปัญหาร่างกายอ่อนเพลียเรื้อรังหาสาเหตุไม่ได้ มูลเหตุสำคัญมักเกี่ยวข้องกับปัญหาปริมาณโพแทสเซียมและแมกนีเซียมในร่างกายมีน้อยเกินไป การกินผลไม้ที่อุดมด้วยแร่ธาตเหล่านี้ ทำให้เกิดความสมดุลทางเคมีในร่างกาย และแก้ไขปัญหาร่างการอ่อนเพลียได้อย่างวิเศษ

         3..ผลไม้ กับการลดน้ำหนัก การกินผลไม้ให้มากเป็นวิการลดน้ำหนักที่ได้ผลดี เพราะร่างกายยังได้รับสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ อย่างพอเพียงจากผลไม้ที่กินได้มากเท่าที่ต้องการ ร่างกายยังแข็งแรง ขณะที่น้ำหนักตัวลดลงได้ดังปรารถนา ในคนอ้วน กระเพาะอาหารได้ถูกกระตุ้นจนติตนิสัยชอบหลั่งน้ำย่อย ทำให้รู้สึกหิวบ่อย ๆทว่าแม้จะกินจุ ร่างกายกลับยังคงขาดแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นอยู่ ทำให้เกิดแรงกระตุ้นอยากกิน การลดนำน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารเป็นการหักหาญร่างกาย ซึ่งนอกจากจะไม่สำเร็จถาวรแล้ว ยังทำให้เครียด สุขภาพจิตเสียเอาได้ตรงกันข้าม การหันมากินผลไม้เป็นหลัก ไม่แตกหักกับระบบย่อยอาหารที่นิสัยเสียอยู่แล้วในทันที ผลไม้ยังช่วยให้ระบบร่างกายอื่น ๆ สามารถทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้นอีก ผลรวมที่เกิดจึงเป็นน้ำหนักลด แต่จิตใจสดชื่น อารมณ์ดี แถมร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้นอีก ผลไม้นอกจากให้วิตามินและแร่ธาตุอย่างอุดมแล้ว ยังมีเส้นไยที่ช่วยให้หนักท้อง และเป็นผลดีต่อการทำงานของลำไส้ ยิ่งกว่านั้นเส้นใยจากผลไม้ยังช่วยขับพิษ (toxin) และสารตกค้างสะสมที่ผนังลำไส้ออกไปได้อีกด้วย สิ่งตกค้างเหล่านี้หากไม่ถูกขับออก จะส่งผลให้ลำไส้ดูดซึมสารอาหารได้ช้าลง ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย
        การกินผลไม้ให้ได้สมประโยชน์และช่วยลดน้ำหนักนั้น ต้องรู้จักกินด้วย โดยทั่วไปเรามักติดนิสัยกินผลไม้หลังอาหารเพื่อล้างปาก อันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมเนียมของหวานและผลไม้หลังอาหาร นี่เป็นกินผลไม้พอเป็นพิธีที่มักมิได้ปริมาณและไม่สมประโยชน์ เพราะกินผิดเวลา หลักการกินผลไม้ที่ถูกต้อง ท่านว่าควรกินในเวลาท้องว่างจึงจะดี ผลไม้เป็นอาหารที่ย่อยง่ายที่สุด อยู่ในกระเพาะชั่วเวลาสั้น ๆ เพียง 30 นาทีก็ผ่านต่อไปถึงลำไส้เพื่อดูดซึมสารอาหารได้แล้ว เหตุที่ผลไม้เป็นอาหารที่ย่อยง่ายก็เพราะสารอาหารเหล่านนี้ที่ดำรงอยู่ในผลไม้อยู่ในสภาพที่ย่อยมาแล้ว จึงแทบไม่ต้องเสียเวลาย่อยในกระเพาะอีก เนื่องจากการย่อยอาหารเป็นระบบร่างกายที่ใช้พลังงานมากที่สุด ดังนั้นการกินผลไม้ให้ได้ประโยชน์ สมคุณค่า ประหยัดพลังงาน และช่วยล้างพิษ (toxin) จึงเป็นการกินในขณะท้องว่าง หากินพร้อมหรือหลังอาหารอื่นทันที ผลไม้จะถูกกักอยู่กับอาหารอื่น ๆ ที่กระเพาะเมื่อต้องรอนาน น้ำตาลและแป้งในผลไม้ที่ผสมปนเปกับอาหารอื่น ๆ อาจเกิดบูดเสีย (ferment) ขึ้นในกระเพาะ ทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน ไม่สบายได้ แม้อาการท้องไม่สยาบจะมิได้เกิดขึ้นกับทุกคนโดยเสมอหน้า เพราะกระเพาะอาหารของบางคนอาจปรับตัวได้ดี แต่กระนั้น หลักการกินผลไม้เมื่อท้องว่าก็ยังถูกต้องเมื่อสารอาหารในผลไม้ย่อยง่ายหรืออยู่ในสภาพที่ร่างกายจะใช้ได้โดยตรงแล้ว ผลไม้ก็ควรผ่านกระเพาะไปสู่ลำไส้ให้เร็วที่สุด ส่วนหลักปฏิบัติที่ให้กินยามท้องว่างนี้ 
ผู้รู้บางคนแนะนำว่าควรเป็นประมาณอย่างน้อย 30 นาที ก่อนหรือหลังอาหารอื่น ในหมู่นักผลไม้นิยม ต่างเห็นสอดคล้องกันว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการกินผลไม้ที่สุด คือ ช่วงเช้า กินผลไม้เป็นอาหารเช้า ไม่ว่าจะกินสด ๆ ทั้งผล หรือดื่มเป็นน้ำผลไม้คั้นเพราะนี่คือช่วงเวลาที่ท้องจะว่างอย่างแน่นอน ตั้งแต่เช้าไปยันเที่ยง คุณจะกินผลไม้กี่มื้อก็ได้ถ้ารู้สึกหิว อาหารเช้าเป็นผลไม้นี่ยังมีข้อดีตรงที่ร่างกายสามารถประหยัดพลังงานได้มากเพราะผลไม้แทบไม่ต้องเสียเวลาย่อยในกระเพาะอาหาร อย่าลืมว่าการย่อยต้องใช้พลังงานมาก พลังงานที่ประหยัดได้ทำให้ร่างกายสามารถนำไปใช้สร้างเนื้อเยื่อ ขับของเสีย และทีสำคัญก็คือ ทำให้คน ๆ นั้นมีพลังทำงานอย่างสดชื่นไปได้ตลอดตั้งแต่เช้า หลักพื้นฐานของการกินผลไม้อีกข้อหนึ่งหนึ่งก็คือ กินผลไม้สดจึงจะได้สมประโยชน์ ผลไม้ที่ถูกความร้อนทำให้สุกหรือผลไม้ที่ถูกแปรรูป เช่น ผลไม้กระป๋อง แยม ผลไม้เชื่อมดองจะสูญเสียวิตามินและแร่ธาตุไปมาก ยิ่งผลไม้กระป๋องด้วยแล้วยิ่งไม่สมควร เพราะนอกจากคุณค่าน้อย ยังราคาแพงอีกเมื่อถูกความร้อน วิตามินในผลไม้จะถูกทำลายไปโดยง่าย อย่างวิตามินซีและบียิ่งสูญเสียง่าย เพราะละลายกับน้ำได้ดี สิ่งที่ควรรู้อีกประการหนึ่งก็คือ คุณค่าของผลไม้จะสูงสุดเมื่อสุกคาต้น ธุรกิจการค้าผลไม้ที่เก็บเกี่ยวผลเมื่อแก่แต่ไม่สุก เพื่อสะดวกต่อการขนส่ง และการบ่มให้สุกเพื่อขาย แม้จะทำให้ตลาดผลไม้กว้างใหญ่ขึ้น แต่ก็ต้องเสียสละคุณค่าทางโภชนาการไปไม่น้อย ในทางปฏิบัติเราจึงควรกินผลไม่ท้องถิ่น ผลไม้ตามฤดูกาล และหากถ้าเลือกได้ ควรซื้อผลไม้ที่ปลูกตามสภาพธรรมชาติ และสุกคาต้น ซื้อผลไม้จากแม่ค้าพ่อค้าข้างทางและในตลาดสด ผลไม้ในซุเปอร์มาร์เกตควรเป็นทางเลือกสุดท้าย หากพิจารณาในราคาและความสดของสินค้า

ประวัตความหมายของผลไม้เพื่อสุขภาพ




1. ความหมายของคำว่า "ผลไม้" 
           ผลไม้ หมายถึง ผลที่เกิดจากการขยายพันธุ์โดยอาศัยเพศของพืชบางชนิด ซึ่งมนุษย์สามารถรับประทานได้ และส่วนมากจะไม่ทำเป็นอาหารคาว ตัวอย่างผลไม้ เช่น ส้ม แอปเปิ้ล กล้วย มะม่วง ทุเรียน รวมถึง มะเขือเทศ ที่สามารถจัดได้ว่าเป็นทั้งผักและผลไม้

2. ความหมายของคำว่า "สุขภาพ"
ในอดีตคำว่า สุขภาพ หมายถึง สุขภาพกายเป็นหลัก ต่อมาจึงได้กล่าวถึงสุขภาพจิตร่วมไปด้วย เพราะเห็นว่าคนที่มีสุขภาพกายสมบูรณ์แข็งแรง แต่สุขภาพจิตเสื่อมโทรมหรือเป็นโรคจิตก็ไม่สามารถดำเนินชีวิตเป็นปกติสุขได้ ซ้ำร้ายอาจจะทำร้ายผู้อื่นได้อีกด้วย
        ปัจจุบัน คำว่า สุขภาพ มิได้หมายเฉพาะสุขภาพกายและสุขภาพจิตเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงสุขภาพสังคม และสุขภาพศีลธรรมอีกด้วย
        สรุปว่าในความหมายของ "สุขภาพ" ในปัจจุบันมีองค์ประกอบ 4 ส่วน ด้วยกันคือ
        1. สุขภาพกาย หมายถึง สภาพที่ดีของร่างกาย กล่าวคือ อวัยวะต่างๆอยู่ในสภาพที่ดีมีความแข็งแรงสมบูรณ์ ทำงานได้ตามปกติ และมีความสัมพันธ์กับทุกส่วนเป็นอย่างดี และก่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีในการทำงาน
        2. สุขภาพจิต หมายถึง สภาพของจิตใจที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ มีจิตใจเบิกบานแจ่มใส มิให้เกิดความคับข้องใจหรือขัดแย้งในจิตใจ สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีความสุข
        3. สุขภาพสังคม หมายถึง สภาวะที่ดีของปัญญาที่มีความรู้ทั่ว รู้เท่าทันและความเข้าใจอย่างแยกได้ในเหตุผลแห่งความดีความชั่ว ความมีประโยชน์และความมีโทษ ซึ่งนำไปสู่ความมีจิตอันดีงามและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
        4. สุขภาพศีลธรรมหมายถึง บุคคลที่มีสภาวะทางกายและจิตใจที่สุขสมบูรณ์ สามารถปฏิสัมพันธ์และปรับตัวให้อยู่ในสังคมได้เป็นอย่างดีและมีความสุข
        องค์ความรู้ด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตมีสั่งสมไว้มากพอสมควร และเรามีระบบบริการสุขภาพที่ทำงานได้ผลดีทีเดียว แต่เราขาดการศึกษาสุขภาพสังคมและสุขภาพศีลธรรมอย่างเป็นระบบและเชื่อมโยงหากทำได้เราจะจัดการกับสุขภาพสังคมและสุขภาพศีลธรรมได้ดีกว่านี้
        ที่จริงทางตะวันออกและโดยเฉพาะในบริบทของวัฒนธรรมไทย ก็มีเนื้อหาความรู้และข้อปฏิบัติไว้มากมาย เพียงแต่ "นักวิชาการสุขภาพ" ยังมิได้จัดเป็นระบบและเชื่อมโดยจริงจัง
        ตัวอย่างเช่น ในเรื่องสุขภาพสังคม หากเรานำเอาวิถีชีวิต มารยาท ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมไทย มาพูดจากันอย่างจริงจัง และนำเข้าไปอยู่ในระบบอบรมเลี้ยงดู และระบบการศึกษา รวมทั้งระบบบริการสุขภาพด้วยก็จะเกิดประโยชน์
        หรือในเรื่องสุขภาพศีลธรรม เราก็มีศาสนธรรมพร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธคริสต์ อิสลาม ฮินดู-พราหมณ์ หรือสิกข์
        หรือปรัชญาขงจื้อที่คนไทยเชื้อสายจีนยึดถือเป็นแนวทางชีวิตล้วนแต่มีคุณค่ามหาศาลที่เราควรนำไปสั่งสอนลูกหลานหรือลูกศิษย์และเป็นองค์ประกอบสำคัญของการศึกษาและการสาธารณสุข
ของประเทศ